back to top
Saturday, May 17, 2025

ความคืบหน้าของ AI principles ‘หลักการของ AI’ 2025 สำหรับผู้พัฒนา AI เป็นอย่างไรบ้าง อัพเดทในบทความนี้

Share

พอจะจำข่าวการปลด Sam Alman ลงจากการเป็นผู้บริหาร สาเหตุของการปลด Sam Altman จากตำแหน่ง CEO ของ OpenAI มีหลายปัจจัย ไม่ได้สื่อสารอย่างสม่ำเสมอและตรงไปตรงมากับคณะกรรมการ มีการพูดถึงความไม่ลงรอยกันระหว่าง Altman กับบอร์ดบริหารเกี่ยวกับทิศทางของบริษัท แต่ประเด็นที่กังวลคือ มีรายงานว่าบางนักวิจัยภายในได้ส่งข้อมูลเตือนบอร์ดเกี่ยวกับการค้นพบเทคโนโลยีในโปรเจกต์ Q* ซึ่งเป็นแนวทางพัฒนา AI ที่มีความสามารถด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ในระดับที่อาจมีความเสี่ยงสูง หากพัฒนาไปในทิศทางที่ไม่ระมัดระวัง การค้นพบด้าน AI ที่อาจมีผลกระทบรุนแรงต่อมนุษยชาติ เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญสำหรับการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายในในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อสังคม

แต่สุดท้าย Sam Alman ก็กลับมา แต่เรื่อง การมี AI principles หรือ แนวทางจริยธรรม สำหรับการพัฒนา ก็เกิดแรงกระเพื่อมให้เร่งความสำคัญมากขึ้น เพราะในยุคของ AI ที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายในในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อสังคม

AI principles จริง จะมีอยู่สองส่วนครับ ส่วนสำหรับผู้พัฒนา และส่วนสำหรับผู้ใช้ แต่ในบทความนี้เราจะเน้นไปที่ ผู้พัฒนาเท่านั้น ไว้แยกเรื่องผู้ใช้ไปในบทความถัด ๆ ไปครับ Intelligence Explosion

Ethics AI กับ AI principles (หลักการของ AI) ต่างกันอย่างไร

และอีกส่วนหนึ่งที่อยากให้ทุกท่านเข้าใจก่อน หลายครั้งที่เราอ่านข่าว การประชุมเรื่อง Ethics AI (จริยธรรมของ AI) และข่าวที่พูดถึง AI principles (หลักการของ AI) มีความต่างกัน โดยสรุปคือ

Ethics AI (จริยธรรมของ AI) เป็นการศึกษาและวิเคราะห์ในเชิงปรัชญาและทฤษฎีเกี่ยวกับคุณค่าทางจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและการใช้ AI เน้นการตั้งคำถามและอภิปรายว่าควรจะมีมาตรฐานหรือแนวทางเชิงจริยธรรมอย่างไรเพื่อให้เทคโนโลยี AI เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติและไม่ก่อให้เกิดอันตราย ประเด็นในจริยธรรมของ AI ครอบคลุมด้านความเป็นธรรม ความโปร่งใส สิทธิมนุษยชน ความรับผิดชอบ และผลกระทบต่อสังคม

ส่วน AI principles (หลักการของ AI) เป็นกรอบแนวทางหรือชุดข้อกำหนดที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์กรหรือรัฐบาล เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการออกแบบ พัฒนา และนำ AI ไปใช้ หลักการเหล่านี้มักระบุข้อแนะนำเฉพาะ เช่น การรับประกันความโปร่งใส การลดอคติ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และการมีมนุษย์เข้ามาตรวจสอบกระบวนการตัดสินใจของระบบ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การปฏิบัติในเชิงเทคนิคและนโยบายมีความสอดคล้องกับค่านิยมทางจริยธรรมที่ได้จากการอภิปรายในด้าน Ethics AI

ความแตกต่างหลักอยู่ที่ ระดับของการวิเคราะห์และการประยุกต์ใช้: Ethics AI เป็นแนวคิดและการวิจัยในระดับทฤษฎี ในขณะที่ AI principles เป็นข้อกำหนดที่เป็นรูปธรรมซึ่งใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานจริงขององค์กรและนโยบายสาธารณะ

ในปี 2025 ภาพรวมของหลักการ AI ได้พัฒนาไปอย่างมาก สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI ที่รวดเร็วและความมุ่งมั่นในระดับโลกเพื่อพัฒนา AI ที่มีจริยธรรม รับผิดชอบ และครอบคลุม

มีใครเป็นผู้ริเริ่ม AI principles กันบ้าง ที่เราควรศึกษา

เสมือนครั้งที่โลก มีความกังวลที่บริษัท เทค เอาข้อมูลของเราไปใช้ประโยชน์ เลยเกิดกฏหมายคุ้มครองเจ้าของข้อมูลขึ้นมา ทำให้เกิดการปรับตัวอย่างมาก และ GDPR ก็กลายเป็นต้นแบบของกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่หลายประเทศนำไปปรับใช้

ในปี 2025 องค์กรระดับโลกมีความเคลื่อนไหวเรื่อง AI principles ในมุมมองของผมเอง AI ในช่วงก่อนมีแรงกระเพื่อมเรื่อง AGI, ASI AI ในภาพที่มีการกำหนดหลักการยังเป็นเรื่อง AI Automation หรือ Model ทาง Machine Learning ตอนนี้เราจะนิยาม ML Model ว่าเป็น Traditional ML (AI) ถ้าเป็นเรื่อง AI principles ที่เจาะจงไปที่ AGI แนวทางของกลุ่ม AI Alignment จะเหมาะกว่า ไว้เขียนถึงในบทความถัดไป

อย่างไรก็ตามแนวทาง AI principles โดยสรุปมีหลักการอยู่ 5 ข้อหลัก ซึ่งคล้ายคลึงกันดังนี้

5 หลักการ หลักของ AI principles

  1. ความเป็นธรรมและการลดอคติ (Fairness and Non-discrimination)
    หลักการนี้ถือเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการป้องกันการเลือกปฏิบัติและการแสดงอคติในระบบ AI ที่อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มที่เปราะบาง เมื่อ AI ทำงานโดยไม่มีความเป็นธรรม จะส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่เท่าเทียมและขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน
  2. ความโปร่งใสและความสามารถในการอธิบาย (Transparency and Explainability)
    การที่ AI สามารถอธิบายกระบวนการตัดสินใจได้ช่วยสร้างความไว้วางใจจากผู้ใช้และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดในระบบ
  3. ความรับผิดชอบ (Accountability)
    ต้องมีการกำหนดว่าผู้ใดเป็นผู้รับผิดชอบเมื่อ AI ทำผิดพลาดหรือก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการบังคับใช้มาตรการแก้ไขและป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต
  4. ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ (Safety and Reliability)
    AI ต้องถูกออกแบบให้มีความปลอดภัยและสามารถทำงานได้อย่างเชื่อถือได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายที่อาจเกิดจากการทำงานผิดพลาดหรือถูกโจมตีในเชิงเทคนิค
  5. ความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูล (Privacy and Data Protection)
    ในยุคที่ข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญ การที่ระบบ AI ต้องปฏิบัติตามหลักการคุ้มครองข้อมูลจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาสิทธิและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

ในฐานะผู้พัฒนา AI ให้ผู้ใช้วงกว้าง ต้องมีการคิดถึง 5 หลักการนี้ ที่นี้เราจะยึดแบบฉบับของใคร ผมลิสหลัก ๆ ไว้ 3 องค์การ หน่วยงานดังนี้

EU AI Act

EU AI Act เป็นกฎหมายของสหภาพยุโรปที่มุ่งเน้นกำกับดูแลและควบคุมการพัฒนา การใช้งาน และการจำหน่ายระบบปัญญาประดิษฐ์ในภูมิภาค EU โดยมีรายละเอียดหลัก ๆ ดังนี้

การแบ่งประเภทความเสี่ยง:

  • ระบบที่มีความเสี่ยงสูง (High-risk): ระบบ AI ที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัย สิทธิพื้นฐานหรือความเป็นธรรม เช่น ระบบด้านการจ้างงาน การควบคุมการเคลื่อนไหว หรือระบบที่ใช้ในบริการสุขภาพ จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดด้านการบริหารความเสี่ยง คุณภาพของข้อมูล การตรวจสอบและมีผู้ดูแล (human oversight) รวมถึงการจัดทำเอกสารและการรับรองความปลอดภัย
  • ระบบที่มีความเสี่ยงต่ำหรือจำกัด (Limited/Minimal risk): ระบบที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรง จะมีข้อกำหนดที่น้อยกว่า แต่ยังคงมีมาตรการด้านความโปร่งใส เช่น การแจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่ากำลังสื่อสารกับระบบ AI

ข้อกำหนดสำหรับผู้ให้บริการและผู้ใช้งาน:
ทั้งผู้พัฒนาและผู้ใช้งานระบบ AI ภายในหรือที่ส่งออกไปยังตลาด EU จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบคุณภาพของข้อมูล และมีการประเมินผลกระทบต่อสิทธิพื้นฐาน

ความโปร่งใสและการตรวจสอบ: ระบบ AI ต้องสามารถอธิบายได้และมีความโปร่งใสในกระบวนการตัดสินใจ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างความไว้วางใจจากผู้ใช้และผู้บริโภค

ผลกระทบระหว่างประเทศ: เนื่องจาก EU AI Act มีผลบังคับใช้ในตลาด EU ก็อาจมีผลกระทบต่อบริษัทและเทคโนโลยีที่อยู่ภายนอก EU ซึ่งมีการส่งออกหรือให้บริการ AI ในภูมิภาคนี้

การส่งเสริมความสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความปลอดภัย: กฎหมายฉบับนี้ถูกออกแบบมาเพื่อไม่เพียงแต่ป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น แต่ยังสนับสนุนการพัฒนาและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี AI ด้วยการสร้างกรอบที่ชัดเจนและเป็นเอกฉันท์ในระดับสากล

โดยสรุป EU AI Act เป็นกรอบกฎหมายที่สำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาและใช้งาน AI ในสหภาพยุโรปจะเป็นไปอย่างปลอดภัย โปร่งใส ยุติธรรม และเคารพสิทธิพื้นฐานของบุคคล ทั้งยังเป็นแนวทางที่ช่วยกระตุ้นนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีในขณะเดียวกันที่ต้องป้องกันผลกระทบด้านลบต่อสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต.

UNESCO Ethics of Artificial Intelligence

UNESCO “Recommendation on the Ethics of Artificial Intelligence” (ข้อเสนอแนะว่าด้วยจริยธรรมสำหรับปัญญาประดิษฐ์) UNESCO เป็นหนึ่งในองค์กรระดับโลกที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกรอบแนวทางจริยธรรมสำหรับการพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะ ข้อเสนอแนะว่าด้วยจริยธรรมสำหรับปัญญาประดิษฐ์ ที่ได้รับการรับรองจาก 193 ประเทศสมาชิกของยูเนสโกในปี 2021 นี่คือรายละเอียดหลักที่เกี่ยวกับจริยธรรม AI ตามแนวทางของยูเนสโก

  1. การกำหนดหลักการและค่านิยมพื้นฐาน:
    • ข้อเสนอแนะฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนา AI จะเคารพสิทธิมนุษยชนและส่งเสริมคุณค่าพื้นฐาน เช่น ความโปร่งใส, ความเป็นธรรม, ความรับผิดชอบ, และความเป็นส่วนตัว
    • หลักการเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่า AI จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจในภาครัฐและภาคเอกชนอย่างมีจริยธรรมและลดความเสี่ยงจากการเลือกปฏิบัติหรือการละเมิดสิทธิของบุคคล
  2. เครื่องมือเชิงปฏิบัติและกรอบนโยบาย:
    • ยูเนสโกได้พัฒนาเครื่องมืออย่าง Readiness Assessment Methodology (RAM) และ Ethical Impact Assessment (EIA) เพื่อช่วยให้รัฐบาลและองค์กรสามารถประเมินความพร้อมและผลกระทบด้านจริยธรรมจากการประยุกต์ใช้ AI ได้อย่างเป็นระบบ
    • เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุและจัดการกับความเสี่ยง เช่น การใช้งาน AI ในการสอดแนมหรือการให้คะแนนความน่าเชื่อถือทางสังคม
  3. ความครอบคลุมในหลากหลายด้าน:
    • ข้อเสนอแนะครอบคลุมประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล, การกำกับดูแลข้อมูล (data governance), การศึกษา, วัฒนธรรม, แรงงาน และสุขภาพ
    • นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการห้ามใช้งาน AI เพื่อจุดประสงค์ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสิทธิมนุษยชน เช่น การสอดแนมในวงกว้างและการใช้ AI ในการให้คะแนนความน่าเชื่อถือทางสังคม
  4. การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ:
    • ยูเนสโกมุ่งหวังให้ข้อเสนอแนะนี้เป็นกรอบการทำงานระดับโลก โดยมีเป้าหมายให้ประเทศสมาชิกนำไปปรับใช้และพัฒนานโยบายที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อสร้างระบบนิเวศของ AI ที่ปลอดภัยและยั่งยืน
    • ความร่วมมือเชิงนโยบายและการแลกเปลี่ยนความรู้ในระดับนานาชาติมีความสำคัญต่อการปรับปรุงและขยายผลการประยุกต์ใช้ AI อย่างมีจริยธรรม
  5. การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย:
    • ยูเนสโกเน้นให้มีการรวมเสียงจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน สังคมพลเมือง และภาควิชาการ เพื่อให้แน่ใจว่าการกำหนดมาตรฐานจริยธรรมสำหรับ AI นั้นเป็นไปอย่างครอบคลุมและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของทุกฝ่ายได้
    • ตัวอย่างเช่น มีการจัดตั้งแพลตฟอร์มเช่น Women4Ethical AI ที่สนับสนุนให้มีความเท่าเทียมในกระบวนการออกแบบและใช้งาน AI

โดยสรุป ยูเนสโกผ่านข้อเสนอแนะว่าด้วยจริยธรรมสำหรับปัญญาประดิษฐ์มุ่งเน้นให้การพัฒนา AI เป็นไปอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และรับผิดชอบต่อสังคมและสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งพัฒนาเครื่องมือและกรอบนโยบายเพื่อให้ประเทศต่างๆ สามารถนำไปปรับใช้และตรวจสอบความพร้อมด้านจริยธรรมของตนเองได้

OECD (องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาการเศรษฐกิจ)

OECD (องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาการเศรษฐกิจ) เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่รวบรวมรัฐบาลจากประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งมีบทบาทในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การพัฒนา และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั่วโลก

ในปี 2024 OECD ได้ทำการปรับปรุงหลักการ AI (AI Principles) ของตนให้ทันสมัยและตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างรวดเร็ว โดยมีรายละเอียดหลัก ๆ ดังนี้:

ความเกี่ยวข้องและการนำไปใช้ทั่วโลก:
การปรับปรุงเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้หลักการยังคงมีความเกี่ยวข้องและสามารถนำไปใช้ได้ในระดับโลก โดยมีประเทศที่เข้าร่วมยึดถือหลักการเหล่านี้ถึง 47 ประเทศ รวมถึงสหภาพยุโรป ซึ่งช่วยกำหนดมาตรฐานและแนวทางสำหรับการพัฒนาและใช้งาน AI อย่างมีจริยธรรมและรับผิดชอบ

รองรับ AI ทั่วไปและ AI เชิงสร้างสรรค์:
หลักการเหล่านี้ได้รับการปรับปรุงเพื่อครอบคลุมการพัฒนา AI ที่มีความสามารถหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น AI ทั่วไปที่สามารถประยุกต์ใช้งานได้ในหลาย ๆ ด้าน หรือ AI เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ที่สามารถผลิตเนื้อหาใหม่ ๆ ได้จากข้อมูลที่มีอยู่

เน้นการคุ้มครองความเป็นส่วนตัว:
หลักการใหม่มีการให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้ AI จะไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน

ส่งเสริมสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา:
การพัฒนา AI ควรเคารพสิทธิของผู้สร้างสรรค์ผลงาน โดยหลักการจะกำหนดแนวทางให้มีการใช้ข้อมูลและผลงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา

มุ่งเน้นความปลอดภัยและความถูกต้องของข้อมูล:
เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน AI ที่ไม่มีความปลอดภัย หลักการจะเน้นให้มีมาตรการรับประกันความปลอดภัยและความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างความไว้วางใจในเทคโนโลยีนี้

แนวทางในปี 2025

ในปี 2025 หน่วยงานระดับนานาชาติที่ขับเคลื่อนการกำกับดูแลและแนวทางจริยธรรมสำหรับ AI มีความเคลื่อนไหวและอัปเดตสำคัญโดยเฉพาะในด้านของเทคโนโลยี Generative AI และโมเดล AI แบบ general‑purpose ซึ่งมีผลกระทบต่อการพัฒนา AGI มากขึ้นกว่าก่อน โดยมีความเคลื่อนไหวดังนี้

EU AI Act ได้มีการปรับปรุงกรอบความเสี่ยงให้ละเอียดขึ้นโดยแบ่งออกเป็นหลายระดับ (minimal, limited, high, unacceptable) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของโมเดล general‑purpose ที่มีการกำหนดเกณฑ์ประเมินตามประสิทธิภาพการประมวลผล (เช่นเกิน 10^25 FLOPS) เพื่อให้มั่นใจว่าระบบเหล่านี้จะต้องผ่านการตรวจสอบด้านความโปร่งใสและมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวด เช่น การห้ามใช้การระบุตัวตนแบบ remote biometric identification ที่อาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

การปรับปรุงนี้ช่วยให้ EU สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี AI ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน AI ในภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยและสิทธิมนุษยชน

OECD ได้มีการปรับปรุงหลักการเพื่อรองรับความท้าทายใหม่ ๆ ของ AI โดยเน้นเพิ่มแนวทางปฏิบัติด้านความรับผิดชอบและความโปร่งใสในกระบวนการตัดสินใจของ AI นอกจากนี้ OECD ยังได้เสริมสร้างเครื่องมือ AI Policy Observatory ที่ช่วยติดตามและวัดระดับการปฏิบัติและการปรับใช้หลักการเหล่านี้ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

UNESCO ยังคงผลักดัน “Recommendation on the Ethics of Artificial Intelligence” ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยในปี 2025 มีการพัฒนาเครื่องมือช่วยประเมินความพร้อมด้าน AI (UNESCO AI Readiness Assessment) เพื่อให้ประเทศสมาชิกสามารถวัดและปรับปรุงความพร้อมในการนำแนวทางจริยธรรมไปปฏิบัติ นอกจากนี้ UNESCO ยังได้จัดงาน Global Forum on the Ethics of AI 2025 ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางการกำกับดูแล AI ที่เน้นการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความโปร่งใส

ด้วยการเน้นในด้าน capacity-building และการแลกเปลี่ยนความรู้ผ่านเวทีระดับโลก UNESCO ช่วยสร้างกรอบนโยบายที่สามารถนำไปปรับใช้ในระดับประเทศได้จริง โดยคำนึงถึงบริบททางวัฒนธรรมและสังคมของแต่ละประเทศ ซึ่งปีนี้มีการประะชุมที่ประเทศไทย

ในปี 2025 แนวทางใหม่สำหรับ AGI ควรอิงตามการอัปเดตจาก EU AI Act, OECD AI Principles และ UNESCO ที่เน้นความโปร่งใส ความเป็นธรรม ความรับผิดชอบ และความปลอดภัยของระบบ AI เพื่อให้การพัฒนาและนำ AI ไปใช้ในระดับนานาชาติเป็นไปอย่างมีจริยธรรมและสามารถควบคุมความเสี่ยงในระยะยาว

อ้างอิง : readynez.com / th.shaip.com / https://pernot-leplay.com/ai-ethics-principles/

Niwat Chatawittayakul
Niwat Chatawittayakulhttp://www.digithun.com
คุณตั้น นิวัฒน์ ชาตะวิทยากูล ผู้ก่อตั้ง และ CEO บริษัท ดิจิทัน เวิลด์ไวด์ บริษัท Data & AI Tech Talant ในประเทศไทย เชี่ยวชาญด้าน การบริหารจัดการการทำ Data and AI Solutions รวมไปถึงการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้งาน มีประสบการณ์ดูแลโครงการ Data ขนาดใหญ่ระดับประเทศ และอยู่เบื้องหลังโครงการด้าน AI ให้กับหลายองค์กรชั้นนำ

Read more

คุณน่าจะชอบบทความนี้