7 AI Coding Tools ฟรี! ใช้ AI เขียนโค้ดและเขียนโปรแกรมง่ายๆ

ทุกวันนี้มีเครื่องมือมากมายรวมไปถึงการใช้ AI Coding Tools เพื่อลดระยะเวลาในการทำงาน สามารถนำมาใช้ประโยชน์และเรียนรู้ได้อย่างมาก เพื่อให้ Dev สามารถปรับแต่ง Code ได้เอง ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะผ่านการประมวลผล และวิเคราะห์รูปแบบการเขียนโปรแกรมได้เป็นอย่างดี

ประเภทของเครื่องมือ AI สำหรับการเขียนโค้ด มีอะไรบ้าง

เครื่องมือที่ใช้ในการเขียนโค้ดจาก AI สามารถแบ่งประเภทได้หลายหลายตามความต้องการในการทำงานโดยเบื้องต้นมี ดังนี้

สุดยอดเครื่องมือ AI เขียนโค้ดฟรีที่ดีที่สุดในปี 2025

ในทุกๆปีก็จะมี AI เขียน code เพิ่มเข้ามาอยู่เรื่อยๆ และในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 7 AI coding tools ที่มีอยู่และกำลังเป็นกระแสในปี 2025 รวมถึงวิเคราะห์เครื่องมือและประโยชน์ของ AI เหล่านี้ ที่จะมาช่วยปรับปรุงและพัฒนาให้ดีมากยิ่งขึ้น

1. Qodo
   • Qodo คือผู้ช่วยเขียนโค้ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสร้าง ปรับแต่ง และแก้ไขโค้ดได้อย่างง่ายดาย โดยจะเสนอแนะโค้ดแบบเรียลไทม์ ตรวจจับข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ และปรับปรุงคุณภาพโดยรวมของ Code
   • Key features: 
     • การเขียนโค้ดอัจฉริยะ: คาดการณ์และแนะนำโค้ดที่เหมาะสม
     • การ Debug ด้วย AI: ตรวจจับบั๊กและข้อผิดพลาดเชิงตรรกะแบบเรียลไทม์
     • การปรับปรุงโค้ด: แนะนำวิธีเพิ่มประสิทธิภาพและโครงสร้างโค้ดที่สะอาดขึ้น
     • รองรับหลายภาษา: ใช้งานได้กับหลายภาษาการเขียนโปรแกรม
   • Qodo ปรับปรุงการพัฒนาซอฟต์แวร์โดยลดความพยายามในการเขียนและตรวจสอบโค้ดด้วยตนเอง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักพัฒนาใหม่ที่ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการเขียนโค้ดที่ดีที่สุดและโปรแกรมเมอร์ที่มีประสบการณ์ซึ่งกำลังมองหาวิธีปรับปรุงประสิทธิภาพ
   • Use cases:
     • สามารถเคลียโค้ดให้มีความคลีนและเหมาะสมพร้อมแก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงคุณภาพโค้ด
     • เรียนรู้แนวคิดการเขียนโปรแกรมใหม่ด้วยคำแนะนำที่ใช้โดย AI

2. KiteKite เป็นเครื่องมืออัตโนมัติที่ใช้ AI สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับโค้ดแบบเรียลไทม์และช่วยเหลือด้าน Doc แก่ผู้พัฒนา

• Key features:
  • การเขียน Python อัตโนมัติ : จัดเตรียมการเติมคำโค้ดแบบคาดการณ์ล่วงหน้าหรือ guildline
  • Inline documentation : แสดงตัวอย่างเอกสารภายใน IDE
• การแนะนำแบบอัตโนมัติ : ปรับปรุง Code ให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา
  • แม้ว่าจะหยุดให้บริการแล้ว แต่ Kite ก็ได้แสดงให้เห็นถึงพลังของ AI ในการปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งส่งผลต่อเครื่องมือเขียนโค้ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI รุ่นใหม่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
• Use cases: ช่วยให้ผู้ที่เขียน Phyton แนะนำการเขียนได้แบบอัจฉริยะ และสามารจัดการ Document ได้แบบ Real Time

3. Amazon CodeWhisperer
   • Amazon CodeWhisperer คือโปรแกรมช่วยเขียนโค้ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งให้การเติมโค้ดและคำแนะนำที่ชาญฉลาดโดยอิงตามอินพุตภาษาธรรมชาติ โปรแกรมนี้สามารถบูรณาการกับบริการ AWS ได้อย่างราบรื่น ทำให้เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการพัฒนาบนคลาวด์
   • Key features:
     • คำแนะนำโค้ดแบบเรียลไทม์: ทำนายและสร้างโค้ดที่เกี่ยวข้อง
     • การบูรณาการกับระบบคลาวด์ AWS: ทำงานร่วมกับ AWS Lambda, EC2 และบริการอื่นๆ
     • รองรับหลายภาษา: รองรับ Python, JavaScript และอื่นๆ
   • ประโยชน์: Amazon CodeWhisperer ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยเสนอคำแนะนำโค้ดที่คำนึงถึงบริบท ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักพัฒนาที่ทำงานกับแอปพลิเคชันบนคลาวด์
   • Use cases:เขียนแอปพลิเคชันแบบไร้เซิร์ฟเวอร์บน AWS การสร้างการรวม API ด้วยการเขียนโค้ดด้วยตนเองขั้นต่ำ รวมถึงการลดเวลาในการพัฒนาสำหรับแอปพลิเคชันบนคลาวด์

4. Ponicode Ponicode เป็นเครื่องมือทดสอบ Unit และวิเคราะห์คุณภาพโค้ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งรับประกันการครอบคลุมการทดสอบสูงและโค้ดที่ปรับให้เหมาะสม
   • Key features:
     • ทดสอบ Unit จาก AI: กรณีทดสอบโดยอัตโนมัติ
     • Code quality analysis: ตรวจจับ Code ที่ไม่มีประสิทธิภาพ
     • รองรับหลายภาษา: ทำงานร่วมกับ JavaScript, Python และภาษาอื่นๆ
   • ประโยชน์: Ponicode ช่วยให้นักพัฒนาเขียนโค้ดที่เชื่อถือได้และแก้ไขได้โดยการทดสอบและตรวจสอบคุณภาพโดยอัตโนมัติ ทำให้เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีมที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยการทดสอบ (TDD)

5. IntelliCode Microsoft IntelliCode ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนโค้ดด้วยการนำเสนอการเติมคำอัตโนมัติด้วย AI คำแนะนำในการ refactoring และแนวทางการเขียนโค้ดที่ดีที่สุดโดยอิงจากOpen Souce หลายตัว
   • Key features:
     • Context-aware code recommendations: เรียนรู้จากโครงการโอเพ่นซอร์ส
     • Automated code refactoring: แนะนำโซลูชันการเขียนโค้ดที่เหมาะสมที่สุด
     • Supports multiple languages: ทำงานกับ Python, Java, C++ และอีกหลายภาษา
   • Benefits: IntelliCode ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเขียนโค้ดที่บำรุงรักษาได้พร้อมทั้งลดข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์และลดงานเขียนโค้ดซ้ำๆ
   • Use cases: ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานเพื่อให้ได้โค้ดที่ดีที่สุดรวมถึงการแก้ไขและเพิ่มประสิทธิภาพฐานโค้ดเก่า

6. YOGI Bot YOGI Bot คือแชทบ็อต AI ซึ่งช่วย Programmer ในการดี Debug และแนะนำ code ที่ดีที่สุด
   • Key features:
     • AI-driven code assistance: ผู้ช่วยเขียนอัจฉริยะที่คอยแก้ไขและจัดการ code ให้ดียิ่งขึ้น
     • Multi-language support: ทำงานได้กับภาษาการเขียนโปรแกรมต่างๆได้เป็นอย่างดี
   • Benefits: มีประโยชน์สำหรับ De ทั้งมือใหม่และมือเกjาที่ต้องการความช่วยเหลือและคำอธิบายในการเขียนโค้ดทันที

7. CodeT5 : CodeT5 พัฒนาโดย Salesforce Research เป็นโมเดลการสร้างและประมวลโค้ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาเขียนโค้ดคุณภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   • Key features:
     • AI-generated code snippets: สร้าง blog code
     • Code translation and optimisation: ช่วยปรับปรุงโค้ดให้ดียิ่งขึ้น
   • Benefits:
     • CodeT5 ปรับปรุงกระบวนการพัฒนาโดยลดการทำงานแบบ Manual และปรับปรุงคุณภาพของโค้ด
   • Use Cases: ทำให้การเขียนโค้ดเป็นอัตโนมัติสำหรับการพัฒนาเว็บและซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยคำแนะนำที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ทำไมต้องใช้ AI Coding Tools ในการเขียนโปรแกรม

เครื่องมือเขียนโค้ด AI ได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากสามารถปรับปรุง พัฒนา และลดข้อผิดพลาดในการเขียนโค้ด รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และนี่คือเหตุผลที่นักพัฒนาควรพิจารณาผสานรวม AI เข้ากับworkflow 

ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น

เครื่องมือที่ใช้ AI ช่วยเพิ่มความเร็วในการเขียนโค้ดโดยแนะนำ snippets code ที่เกี่ยวข้อง ฟังก์ชันการเติมคำอัตโนมัติ และทำงานซ้ำๆ โดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้แทนที่จะเสียเวลาไปกับการเขียนโค้ดซ้ำๆ

ปรับปรุงคุณภาพโค้ด

เครื่องมือตรวจสอบโค้ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะวิเคราะห์โค้ดเพื่อหาข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น จุดอ่อนด้านความปลอดภัย และปัญหาประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้แน่ใจว่าโค้ดมีคุณภาพสูงและเหมาะสมที่สุด

ลดเวลาในการแก้ไขข้อบกพร่อง

การค้นหาและแก้ไขข้อบกพร่องด้วยตนเองอาจใช้เวลานาน เครื่องมือแก้ไขข้อบกพร่องด้วย AI ช่วยตรวจจับปัญหาได้แบบเรียลไทม์และเสนอวิธีแก้ไขที่เป็นไปได้ ช่วยลดเวลาในการแก้ไขปัญหา

การทำงานร่วมกันที่ดีขึ้น

ช่วยให้การทำงานร่วมกันเป็นทีมเป็นไปได้ง่ายขึ้นด้วยการให้คำแนะนำเกี่ยวกับโค้ดและเอกสารประกอบ ทำให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทดสอบและการปรับใช้อัตโนมัติ

การทดสอบอัตโนมัติที่ใช้ AI ช่วยให้มั่นใจได้ว่าแอปพลิเคชันจะได้รับการทดสอบก่อนการใช้งาน ลดการเขียนโค้ดด้วยตัวเอง และทำให้จบงานได้ไวมากขึ้น

ความปลอดภัยที่ดีขึ้น

เครื่องมือ AI ที่เน้นด้านความปลอดภัยสามารถช่วยระบุช่องโหว่และ ช่วยให้นักพัฒนาเขียนโค้ดที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม

การเข้าถึงสำหรับผู้เริ่มต้น

ผู้ช่วยเขียนโค้ด AI ช่วยให้ผู้เริ่มต้นเรียนรู้การเขียนโปรแกรมโดยให้ข้อเสนอแนะแบบเรียลไทม์ แนะนำการปรับปรุง และลดความซับซ้อนของแนวคิดการเขียนโค้ด

ประโยชน์และภาพรวมของเครื่องมือเขียนโค้ด AI ฟรี 7 อันดับ

เครื่องมือเขียนโค้ด AI ใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้เชิงลึก และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ เพื่อช่วยให้นักพัฒนาเขียนและปรับแต่งโค้ดได้ เครื่องมือเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนจากคลังโค้ดและชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้สามารถวิเคราะห์รูปแบบการเขียนโปรแกรมและให้คำแนะนำที่ชาญฉลาดได้

รูปแบบของเครื่องมือเขียนโค้ด AI

เครื่องมือเขียนโค้ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถแบ่งประเภทได้หลายประเภทตามฟังก์ชันการทำงาน:
เครื่องมือเขียนโค้ด AI — ให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์และเขียนโค้ดให้สมบูรณ์โดยอัตโนมัติ
เครื่องสร้างโค้ด AI — สร้างสคริปต์ ฟังก์ชัน หรือแม้แต่แอปพลิเคชันทั้งหมด
เครื่องมือแก้จุดบกพร่องและตรวจจับข้อผิดพลาด AI — ระบุข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ ปัญหาเชิงตรรกะ และช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
เครื่องมืออัตโนมัติสำหรับการทดสอบ AI — สร้างและดำเนินการกรณีทดสอบโดยมีการแทรกแซงจากมนุษย์น้อยที่สุด
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพโค้ด AI — ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยแนะนำแนวทางการเขียนโค้ดที่ดีกว่า
เครื่องมือความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ AI — วิเคราะห์โค้ดเพื่อหาช่องโหว่และช่วยให้นักพัฒนาปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัย
เครื่องสร้างเอกสาร AI — สร้างความคิดเห็นแบบอินไลน์ เอกสาร API และคำอธิบายโดยอัตโนมัติ

ด้วยการรวมเครื่องมือเหล่านี้เข้าไว้ในเวิร์กโฟลว์ นักพัฒนาสามารถเขียนโค้ดที่สะอาดขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดเวลาที่ใช้ไปกับงานที่ซ้ำซาก แล้วเราจะทำการพัฒนาเทคโฯโลยีได้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้นหลายเท่าค่ะ