back to top
Friday, May 16, 2025

เป็น CEO ผู้บริหารยุค Intelligence Age ต้องมีสกิลจัดการ AI Employees

Share

การสนทนาสำคัญของผู้นำโลกในการประชุม Davos 2025 ได้ใช้คำว่า Intelligence Age1 กล่าวคือ ไม่ใช่ช่วงเวลาคุยเรื่อง AI แค่ใน Concept เท่านั้น เป็นการพูดคุยกันกับการรับมือ AI Practical เรากำลังก้าวสู่ยุค AI Age เต็มตัว (From Hype to Practical Impact: The Rise of Agentic AI) เป็นยุคของความชาญฉลาดของเครื่องมือ AI ที่อยู่ในทุก ๆ มิติ นิยาม Intelligence Age เป็นคำที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเราเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเกิด “Collaboration for the Intelligent Age” หรือ “ความร่วมมือสำหรับยุคปัญญาประดิษฐ์”

AI เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในงาน Davos ปีนี้ โดยเน้นเรื่องการเป็นผู้นำในการนำ AI ไปใช้เพื่อการเปลี่ยนแปลง เจ้าของธุรกิจที่ตื่นตัวปรับองค์กร เพื่อรับสู่การเพิ่มประสิทธิภาพพนักงาน การปรับทิศทางธุรกิจ รวมถึงการจัดการ พนักงาน AI เป็นความสามารถของผู้บริหารยุค Intelligence Age ที่จำเป็นต้องเพิ่มทักษะนี้

มีเรื่องสนุก ๆ ของ Campaign โฆษณาของบริษัท Startup ด้าน AI “Artisan2” โฆษณาที่กระตุกความคิดว่า AI จะมาแย่งงานคนไป สร้างการพูดถึงได้อย่างมาก

Artisans (AI Agent) เราจะไม่บ่นเรื่อง Work-Life-Balance ถึงยุคของ AI Employees แล้ว เลิกจ้างมนุษย์ แล้วมาจ้าง AI

Anti-AI campaigns that took a stand against AI's overreach

ทำไมต้อง บริหารพนักงาน AI

Agentic AI สามารถทำงานได้ โดยมีกระบวนการคิดตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้เป้าหมายผลลัพธ์ ตามคำสั่งโดยไม่ต้องการการชี้นำ หรือตัดสินใจจากมนุษย์ Agent การให้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัท อย่างมากมายจากการเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในบริษัท มีคำถามเกิดขึ้นว่า แล้ว Agentic AI ต้องมี KPI ของตัวเองด้วยหรือไม่ เพราะก็ทำงานเสมือนพนักงานคนนึงในองค์กร ต้นทุนค่าใช้จ่ายของพนักงาน AI ก็ต้องมีความคุ้มค่า กลับมาเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นกับบริษัทเช่นเดียวกัน DNA Sequencing

ในกรณีการทำงานของ AgenticAI หลาย UseCases Agent สามารถทำงานที่มีขั้นตอนซับซ้อนเสมือน มนุษย์ทำ มีความจำ คิด วางแผน และลงมือทำจนได้ เป้าหมายผลลัพธ์

ความจริงที่ปรากฏในงาน World Economic Forum 2025 ที่ดาวอสปีนี้คือ: ผู้นำธุรกิจจะต้องตัดสินใจในไม่ช้าว่า จะเริ่มต้นจัดการไม่เพียงแต่พนักงานมนุษย์ของพวกเขา แต่ยังรวมถึงพนักงาน AI รุ่นใหม่ด้วย ในขณะที่ต้องรักษาความสมดุลระหว่างบอทและมนุษย์ ให้สามารถทำงานได้ร่วมกัน และเปิดรับการทำงานรูปแบบ Machine as teammate บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องลงมือทันทีเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันการบริหารพนักงาน AI ก็เริ่มกลายเป็นกลยุทธ์ สำคัญในการพาธุรกิจให้เติบโต (คุ้ม ROI)

การเติบโตของ Agentic AI

การเติบโตของ Agentic AI ได้พัฒนาไปสู่การให้บริการที่ซับซ้อนแบบครบวงจร เริ่มสร้างผลกระทบ ซึ่งอาจเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การตลาด ทรัพยากรบุคคล และการจัดซื้อจัดจ้าง ผู้นำองค์กรเริ่มใช้ AI ตัวแทนในงานประจำวันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

อย่างกรณี โฆษณาของ Artisan AI สำหรับขายของทางโทรศัพท์ (outbound sales) ผู้สามารถสร้าง การสนทนาที่รู้ใจผู้บริโภคจาก Data และสามารถปิดการขายได้มีประสิทธิภาพกว่า นักขายทั่ว ๆ ไป ประโยคที่บอกว่า “Artisans (AI Agent) เราจะไม่บ่นเรื่อง Work-Life-Balance ถึงยุคของ AI Employees แล้ว เลิกจ้างมนุษย์ แล้วมาจ้าง AI

อ้างอิงการพูดเรื่องนี้ใน Business Insider สัมภาษณ์ผู้บริหารในเรื่อง การบริหารพนักงาน AI ขยายความมุมมองขององค์กร ที่เริ่มริเริ่ม และตระหนักว่า การบริหารพนักงาน AI จำเป็นต้องคิดเยอะ และรักษาสมดุล

Sarah Franklin ซีอีโอของ Lattice ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนา Software ด้าน HR ซึ่งให้สัมภาษณ์ เรื่องการบริหารพนักงาน และ AI จะต้องทำอย่างไรเพื่อรักษาสมดุล โดยพยายามคิดหาคำตอบในการคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

บริษัท Lattice ได้ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า บริษัทจะปฏิบัติต่อพนักงาน AI เหมือนมนุษย์ โดยให้พวกเขามีประวัติพนักงานอย่างเป็นทางการ และแม้กระทั่งผ่านกระบวนการเริ่มงานเหมือนพนักงานมนุษย์จริง ๆ อย่างไรก็ตาม, พนักงานมนุษย์จริง ๆ ไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และ Lattice ได้หยุดแผนดังกล่าวหลังจากได้รับ Feedback จากพนักงาน สำหรับความคิดผมดูทำเร็วและห่ามไปหน่อย เป็นวิสัยทัศน์ ที่มาเร็วจนเกินไป

อีกท่าน Alan Flower, หัวหน้าฝ่าย AI ระดับโลกที่ HCLTech, ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider. ว่า ในฐานะผู้ที่มีตำแหน่งผู้จัดการเอง จะต้องสามารถบริการมนุษย์ และ Agentic AI ไปพร้อม ๆ กันเพื่อให้เกิดการทำงานที่ราบรื่นจากทั้งสองฝั่ง (human workforce and an agentic workforce)

ไม่เพียงเท่านั้น AI agents ของผมจะต้องทำงานร่วมกับ AI agents จากบริษัทอื่นด้วยเช่นกัน มุมผมตรงนี้ทำให้เราเห็นว่า การบริหารจัดการ AI Agent จะต้องบริหารจัดการทั้ง Stake Holder ภายในองค์กร ภายนอกองค์กร

คำถามสำคัญ คือ ทำอย่างไรให้การทำงานทั้งหมดนี้ AI Agent ภายในองค์กร ภายนอกองค์กร ทำงานในมาตรฐานที่ดี do good work แล้วจะเอาอะไรมาเป็นตัวจูงใจ Motivation พวกเขา ?

หรือ KPI ที่ถูกตั้งให้ Agentic AI จะเป็นคำตอบ

Human-AI Relationship in the Workplace

การบริหารงานให้ราบรื่นส่วนสำคัญคือ ความสัมพันธ์ ในใจตอนเขียนบทความนี้ นี่เราถึงจุดที่ต้องบริหารความสัมพันธ์กับ AI แล้วหรือนี่ อะไรก็เกิดขึ้นได้หลังจากการมี AI เป็นเพื่อนร่วมงานแนวคิดการบริหารจัดการ รูปแบบใหม่ ๆ คงต้องปรับให้เข้ากับ Intelligence Age ตอนนี้อาจจะยังไม่สำคัญ แต่ความในไม่ช้าก็จะสำคัญมากพอ

สิ่งที่ Sarah Franklin ยังให้ความเห็นในตอนท้าย “ความจริงก็คือ ในปัจจุบัน AI ถูกนำไปใช้งานเป็นตัวแทนในการพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง ในนามของแบรนด์” พร้อมเสริมว่าการไว้วางใจ AI ให้ทำงานในระดับนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ และส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีการ กำกับดูแลที่เหมาะสม (ทุกวันนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาเรื่อง กฎมาตรฐาน จริยธรรมต่าง ๆ และจะถูกบังคับใช้ในอนาคตอันใกล้)

การไว้วางใจ AI ที่มากขึ้นก็ต้องมากับควบคุม more responsibilities, more governance ซึ่งเรื่องนี้ต้องจำเป็นต้องมีการพูดคุย

สรุปว่า AI Managet หรือ CEO ต้องสร้างความรู้สึก ให้พนักงานสบายใจต่อการทำงานกับ AI Agent และไม่กลัว ทำงานด้วยกันอย่างราบรื่น

ทักษะที่สำคัญสำหรับ CEO ในการจัดการพนักงาน AI ได้แก่:

  1. ความเข้าใจในเทคโนโลยี AI: CEO ควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ AI และการประยุกต์ใช้ในธุรกิจ เพื่อสามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และนำ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในองค์กร bangkokbiznews.com
  2. การจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management): การนำ AI เข้ามาในองค์กรอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างและกระบวนการทำงาน CEO ต้องสามารถจัดการการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ bangkokbiznews.com
  3. การพัฒนาทักษะและการฝึกอบรมพนักงาน: CEO ควรส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของพนักงาน เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ truedigitalacademy.com
  4. การบริหารความเสี่ยงและจริยธรรม: การใช้ AI ต้องคำนึงถึงจริยธรรมและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล CEO ต้องมีความสามารถในการบริหารความเสี่ยงและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง mebmarket.com
  5. การสื่อสารและการสร้างความไว้วางใจ: การสื่อสารอย่างเปิดเผยและโปร่งใสเกี่ยวกับการใช้ AI ในองค์กรจะช่วยสร้างความไว้วางใจระหว่างพนักงานและส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่ดี slingshot.co.th

การพัฒนาทักษะเหล่านี้จะช่วยให้ CEO สามารถนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จในยุคที่ AI มีบทบาทสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผมว่าถึงเวลาที่ต้องรื้อตำรา HR และ ตำราบริหารธุรกิจกันใหม่อีกรอบ เรียนรู้ไปพร้อมกัน ๆ ครับ โชคดี 🙂

อ้างอิง : Managing AI Employees

  1. การประชุมประจำปีของ World Economic Forum (WEF) ที่ดาวอสในปี 2025 จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Collaboration for the Intelligent Age” หรือ “ความร่วมมือสำหรับยุคปัญญาประดิษฐ์” ซึ่งมุ่งเน้นการสำรวจและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ควอนตัมคอมพิวติ้ง และบล็อกเชน กำลังเปลี่ยนแปลงโลกอย่างรวดเร็ว
    weforum.org

    หัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้ประกอบด้วย:
    การสร้างความไว้วางใจใหม่ (Rebuilding Trust): มุ่งเน้นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในสถาบันและระบบต่าง ๆ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคม
    การจินตนาการการเติบโตใหม่ (Reimagining Growth): สำรวจแนวทางใหม่ในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและครอบคลุม
    – การลงทุนในคน (Investing in People): เน้นการพัฒนาทักษะและการศึกษาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในยุค AI
    – การปกป้องโลก (Safeguarding the Planet): หารือเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    – อุตสาหกรรมในยุคปัญญาประดิษฐ์ (Industries in the Intelligent Age): วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกิดจากการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้
    การประชุมนี้ได้รวบรวมผู้นำจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก เพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายที่เกิดขึ้นในยุคปัญญาประดิษฐ์ และเน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศและภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม
    visionofhumanity.org ↩︎
  2. Artisan.co เป็นบริษัทที่พัฒนาแพลตฟอร์ม AI สำหรับขายของทางโทรศัพท์ (outbound sales) โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือ “Ava” ซึ่งเป็น AI ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนพัฒนาธุรกิจ (AI BDR) Ava สามารถทำงานหลายอย่างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย เช่น: ค้นหาและรวบรวมข้อมูลลูกค้าเป้าหมายจากฐานข้อมูลที่มีมากกว่า 300 ล้านรายชื่อ, ส่งอีเมลและข้อความผ่าน LinkedIn ที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับแต่ละลูกค้า, จัดการกระบวนการขายภายนอกทั้งหมดโดยอัตโนมัติ

    บริษัทมุ่งเน้นการสร้าง “AI Employees” ที่เรียกว่า “Artisans” เพื่อทำงานร่วมกับมนุษย์ในการเพิ่มประสิทธิภาพและอัตโนมัติในกระบวนการทำงานต่างๆ
    artisan.co

    นอกจากนี้ Artisan ยังได้รับการสนับสนุนจาก Y Combinator และได้ระดมทุนเมล็ดพันธุ์จำนวน 11.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนา AI ที่มีความสามารถใกล้เคียงมนุษย์สำหรับทีมขาย
    forbes.com
    ↩︎
Niwat Chatawittayakul
Niwat Chatawittayakulhttp://www.digithun.com
คุณตั้น นิวัฒน์ ชาตะวิทยากูล ผู้ก่อตั้ง และ CEO บริษัท ดิจิทัน เวิลด์ไวด์ บริษัท Data & AI Tech Talant ในประเทศไทย เชี่ยวชาญด้าน การบริหารจัดการการทำ Data and AI Solutions รวมไปถึงการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้งาน มีประสบการณ์ดูแลโครงการ Data ขนาดใหญ่ระดับประเทศ และอยู่เบื้องหลังโครงการด้าน AI ให้กับหลายองค์กรชั้นนำ

Read more

คุณน่าจะชอบบทความนี้